สูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา2019 นอกจากการสูบบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด ปอดอุดตันเรื้อรัง (COPD) ภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (ARDS) โรคถุงลมโป่งพอง รวมถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง การสูบบุหรี่หรือแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสู่ผู้อื่นอีกด้วย เนื่องจากควัน หรือละอองไอของบุหรี่ที่ถูกพ่นออกมาก ประกอบด้วยสารคัดหลั่ง น้ำลาย เสมหะ และแบคทีเรีย ซึ่งสามารถกระจายไปได้ไกล หากผู้สูบบุหรี่เป็นผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ตอบข้อสงสัยเรื่องบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ไว้ว่า ผู้สูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะสูบบุหรี่มือและนิ้วอาจมีเชื้อโรคอยู่ เมื่อสัมผัสกับริมฝีปาก ซึ่งเป็นช่องทางที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ บุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด-19 หรือไม่ นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังอาจส่งผลให้ผู้สูบมีภาวะโรคปอด หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ซึ่งทำให้ความจุของปอดลดลง จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกเหนือจากบุหรี่แล้ว ผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า หรือมอระกู่ ที่นิยมสูบกันในสถานบันเทิง ส่วนใหญ่มีการแบ่งปันหรือแชร์กันสูบ แม้จะใช้อุปกรณ์ที่สัมผัสปากแยกกัน แต่ใช้กระบอกและสายเดียวกัน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิค 19 รวมถึงไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆ ในวงกว้างอีกด้วย ผู้ป่วยที่ สูบบุหรี่ มีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ข้อมูลจากวารสารทางวิทยาศาสตร์ของอเมริกา ระบุว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีประวัติการสูบบุหรี่มีอาการรุนแรงกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ถึง 14เท่า
ข่าว ณ. วันที่ 24 พ.ค. 2564 เวลา 13.37 น. โดย คุณ วีระวัฒน์ แสงน้อย
ผู้เข้าชม 53 ท่าน